วัดพระธาตุประสิทธิ์, อำเภอนาหว้า, นครพนม

วัดพระธาตุประสิทธิ์

วัดราษฎร์นิกายมหานิกาย

ข้อมูลทั่วไป

ที่อยู่:นาหว้า, นาหว้า, นครพนม, 48180
จดทะเบียน:2400
วิสุงคามสีมา:2516
ประเภทการขึ้นทะเบียน:ตั้งวัด

ติดต่อ

เวลาทำการ:
วันพุธ: 6:00-22:00
วันศุกร์: 6:00-22:00
วันเสาร์: 6:00-22:00
วันจันทร์: 6:00-22:00
วันอังคาร: 6:00-22:00
วันอาทิตย์: 6:00-22:00
วันพฤหัสบดี: 6:00-22:00

สิ่งอำนวยความสะดวกข้อมูลพิเศษ

ที่จอดรถ
มีบริการ
เข้าถึงได้
สำหรับผู้พิการ
ห้องน้ำ
สาธารณะ
ข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการยืนยัน

รายละเอียด

เกี่ยวกับวัด

วัดพระธาตุประสิทธิ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา ภายในวัดมีพระธาตุประสิทธิ์ ซึ่งเป็นเจดีย์โบราณที่เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี และเป็นสถานที่เคารพบูชาที่สำคัญของชาวจังหวัดนครพนมและพื้นที่ใกล้เคียง


ประวัติความเป็นมา

พระธาตุประสิทธิ์เป็นเจดีย์เก่าแก่ซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าก่อสร้างขึ้นเมื่อใด แต่มีการกล่าวถึงการค้นพบโดยชนเผ่าญ้อในช่วงสมัยสงครามระหว่างอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์กับพม่าและเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2112 พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้ทรงบูรณะพระธาตุองค์นี้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2283 เจ้าผู้ครองนครศรีโคตรบูรได้บูรณะและเสริมยอดเจดีย์ให้สูงขึ้นประมาณ 30 เมตร


ในปี พ.ศ. 2436 พระเจดีย์เกิดความทรุดโทรมอย่างมากจนยอดหักลง ต่อมาในปี พ.ศ. 2454 พระครูประสิทธิ์ศึกษากร เจ้าอาวาสได้ทำการปฏิสังขรณ์ใหม่โดยสร้างเลียนแบบรูปแบบบางส่วนของพระธาตุพนม มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 7.20 เมตร สูงประมาณ 24.52 เมตร และแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2506 พร้อมตั้งชื่อว่า “พระธาตุประสิทธิ์” ตามชื่อของพระครูผู้ก่อสร้าง


สิ่งสำคัญและจุดน่าสนใจ

พระธาตุประสิทธิ์ เป็นเจดีย์โบราณที่ภายในบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ, พระอรหันตธาตุ, ดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง และมีพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์
รูปทรงเจดีย์เป็นแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีประตูเปิด-ปิดสองด้าน ลวดลายตกแต่งใหม่แต่ยังคงความงามตามแบบฉบับโบราณ
เจดีย์นี้ถือเป็น พระธาตุประจำวันเกิดวันพฤหัสบดี ซึ่งผู้เกิดวันนี้จะนิยมมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดนี้เดิมชื่อว่า "วัดธาตุ" มีลักษณะคล้ายกับเจดีย์ของวัดศรีบุญเรือง นครหลวงเวียงจันทน์ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมระหว่างพื้นที่

ข้อมูลทั้งหมดนี้ได้รับการยืนยันจากแหล่งข้อมูลทางการและเว็บไซต์เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของวัด รวมถึงกรมศิลปากร ซึ่งดูแลรักษาโบราณสถานแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง