วัดบ้านกู่, อำเภอธวัชบุรี, ร้อยเอ็ด

วัดบ้านกู่

วัดราษฎร์นิกายมหานิกาย

ข้อมูลทั่วไป

ที่อยู่:มะอึ, ธวัชบุรี, ร้อยเอ็ด, 45170
จดทะเบียน:2473
วิสุงคามสีมา:2493
ประเภทการขึ้นทะเบียน:ตั้งวัด

ติดต่อ

ไม่มีข้อมูลโทรศัพท์
ไม่มีเว็บไซต์
เวลาทำการ:
วันพุธ: เปิด 24 ชั่วโมง
วันศุกร์: เปิด 24 ชั่วโมง
วันเสาร์: เปิด 24 ชั่วโมง
วันจันทร์: เปิด 24 ชั่วโมง
วันอังคาร: เปิด 24 ชั่วโมง
วันอาทิตย์: เปิด 24 ชั่วโมง
วันพฤหัสบดี: เปิด 24 ชั่วโมง

สิ่งอำนวยความสะดวกข้อมูลพิเศษ

ที่จอดรถ
มีบริการ
เข้าถึงได้
สำหรับผู้พิการ
ห้องน้ำ
สาธารณะ
ข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการยืนยัน

รายละเอียด

เกี่ยวกับวัด


วัดบ้านกู่ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่บ้านกู่ หมู่ที่ ๖ ตำบลมะอึ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด (รหัสไปรษณีย์ 45170) ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ประมาณ ๔ ไร่ ๒๘ ตารางวา โดยอาณาเขตทิศเหนือจดเขตหมู่บ้าน วัดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชนในพื้นที่


ประวัติความเป็นมา


วัดบ้านกู่ได้รับการตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๓ และได้รับวิสุงคามสีมา (การผูกพัทธสีมาหรือเขตแดนสำหรับทำสังฆกรรม) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความต่อเนื่องของการเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนามาอย่างยาวนานในชุมชน นอกจากนี้ยังมีการบันทึกรายนามเจ้าอาวาสเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน


สิ่งสำคัญและจุดน่าสนใจ


สถาปัตยกรรมและศิลปกรรม

แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบสถาปัตยกรรมหลักของอุโบสถหรือวิหารในผลการค้นหา แต่โดยทั่วไปแล้ววัดในภาคอีสานมักมีลักษณะเด่นคืออุโบสถทรงไทยประยุกต์ หรือทรงเรือนพื้นถิ่น มีการตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นหรือไม้แกะสลัก

แหล่งศิลปกรรมใกล้เคียง

บริเวณใกล้เคียงกับตำบลมะอึยังมีแหล่งศิลปกรรมสำคัญ เช่น กู่น้อยบ้านยางกู่ ซึ่งเป็นศาสนสถานเก่าแก่ประเภทวัดร้าง และปรางค์กู่ (ปราสาทหนองกู่) ที่ตั้งอยู่ภายในวัดศรีรัตนาราม บ้านยางกู่ ซึ่งแสดงถึงความต่อเนื่องของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ

บทบาททางสังคมและวัฒนธรรม

วัดบ้านกู่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่ ทำหน้าที่จัดกิจกรรมทางศาสนา ประเพณี และเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ของชุมชน

พื้นที่และสภาพแวดล้อม

ที่ดินตั้งวัดมีขนาดไม่ใหญ่ แต่มีความเหมาะสมกับขนาดของชุมชน และมีการกำหนดเขตแดนอย่างชัดเจน


สรุป

วัดบ้านกู่ ตำบลมะอึ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๓ มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านศาสนาและวัฒนธรรมของท้องถิ่น แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบสถาปัตยกรรมหรือวัตถุโบราณภายในวัด แต่บริเวณโดยรอบยังมีแหล่งศิลปกรรมเก่าแก่ที่น่าสนใจ ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายทางประวัติศาสตร์ของชุมชนแห่งนี้