วัดสระเกตุ, อำเภอสุวรรณภูมิ, ร้อยเอ็ด

วัดสระเกตุ

วัดราษฎร์นิกายมหานิกาย

ข้อมูลทั่วไป

ที่อยู่:น้ำคำ, สุวรรณภูมิ, ร้อยเอ็ด, 45130
จดทะเบียน:2236
วิสุงคามสีมา:2469
ประเภทการขึ้นทะเบียน:ตั้งวัด

ติดต่อ

โทร:+66 98 137 0832
ไม่มีเว็บไซต์
เวลาทำการ:
วันพุธ: 6:00-18:00
วันศุกร์: 6:00-18:00
วันเสาร์: 6:00-18:00
วันจันทร์: 6:00-18:00
วันอังคาร: 6:00-18:00
วันอาทิตย์: 6:00-18:00
วันพฤหัสบดี: 6:00-18:00

สิ่งอำนวยความสะดวกข้อมูลพิเศษ

ที่จอดรถ
มีบริการ
เข้าถึงได้
สำหรับผู้พิการ
ห้องน้ำ
สาธารณะ
ข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการยืนยัน

รายละเอียด

เกี่ยวกับวัด

วัดสระเกตุ หรือที่รู้จักในชื่อ วัดบ้านน้ำคำ (สระเกตุ) เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลน้ำคำ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด วัดนี้มีความสำคัญในฐานะสถานที่ปฏิบัติธรรมและเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและศิลปกรรมพื้นบ้านของภาคอีสาน


ประวัติความเป็นมา

วัดสระเกตุตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2236 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แม้จะไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับผู้ก่อตั้ง แต่มีเรื่องเล่าว่าชาวข่าละแดเป็นผู้สร้างวัดนี้ วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2469 โดยมีเขตวิสุงคามสีมาขนาดกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร

อุโบสถ (หรือที่เรียกว่าสิม) และวิหารของวัดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ เขต 8 อุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ. 2545 อุโบสถสร้างขึ้นในช่วงปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 4 หรือต้นรัชกาลที่ 5 มีขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 10 เมตร เป็นสิมโปร่ง ฐานปัทม์ยกสูงแบบแอวขัน ผนังด้านข้างและด้านหลังทำจากอิฐ มีช่องหน้าต่างเล็ก ๆ ด้านละ 2 ช่อง หลังคาเดิมมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด


สิ่งสำคัญและจุดน่าสนใจ

สิมคู่โบราณ คือไฮไลท์สำคัญของวัดสระเกตุ เป็นอุโบสถเก่าแก่ที่หาชมได้ยากในภาคอีสาน มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบพื้นถิ่นที่โดดเด่นและงดงาม
อุโบสถและวิหาร ที่มีลวดลายสลักไม้หน้ามุขเป็นลายเถาไม้ ลายพรรณพฤกษา และรูปมาร (ราหู) อมจันทร์ ส่วนหน้าบันตกแต่งด้วยลายตาเวนหรือตะวัน ซึ่งเป็นศิลปะพื้นบ้านที่มีความละเอียดอ่อนและมีเอกลักษณ์
วัดนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชุมชนชาวข่าละแดในพื้นที่
แม้สภาพอาคารจะชำรุดในบางส่วน แต่ทางวัดได้มีการใช้สังกะสีมุงคลุมเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม

วัดสระเกตุจึงเป็นสถานที่สำคัญทั้งในด้านศาสนาและวัฒนธรรมที่สะท้อนประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและศิลปกรรมพื้นบ้านของภาคอีสานอย่างชัดเจน