วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร, อำเภอเมืองสกลนคร, สกลนคร

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

พระอารามหลวงนิกายมหานิกาย

ข้อมูลทั่วไป

ที่อยู่:ธาตุเชิงชุม, เมืองสกลนคร, สกลนคร, 47000
จดทะเบียน:2300
วิสุงคามสีมา:10/11/2515
ประเภทการขึ้นทะเบียน:ตั้งวัด

ติดต่อ

เวลาทำการ:
วันพุธ: 6:00-22:00
วันศุกร์: 6:00-22:00
วันเสาร์: 6:00-22:00
วันจันทร์: 6:00-22:00
วันอังคาร: 6:00-22:00
วันอาทิตย์: 6:00-22:00
วันพฤหัสบดี: 6:00-22:00

สิ่งอำนวยความสะดวกข้อมูลพิเศษ

ที่จอดรถ
มีบริการ
เข้าถึงได้
สำหรับผู้พิการ
ห้องน้ำ
สาธารณะ
ข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการยืนยัน

รายละเอียด

เกี่ยวกับวัด

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีพื้นที่ประมาณ 18 ไร่ 1 งาน 27 ตารางวา อาคารเสนาสนะหลักประกอบด้วยพระอุโบสถและเจดีย์พระธาตุเชิงชุมที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสกลนคร


ประวัติความเป็นมา

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหารเดิมชื่อว่า "วัดพระธาตุศาสดาราม" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "วัดพระธาตุ" หรือ "วัดธาตุ" ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2300 ต่อมาในปี พ.ศ. 2496 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร และได้รับพระราชทานยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2506 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ตามตำนานเล่าว่า พระธาตุเชิงชุมสร้างขึ้นโดยพระเจ้าสุวรรณภิงคาระ ซึ่งได้ถอดพระมงกุฎทองคำของพระองค์มาสวมบูชารอยพระพุทธบาท และสร้างเจดีย์ครอบไว้ จึงเป็นที่มาของชื่อ "พระธาตุเชิงชุม" ตามพงศาวดารลาวในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช แห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต (ล้านช้าง) เรียกพระธาตุแห่งนี้ว่า "พระธาตุหนองหาน"


สิ่งสำคัญและจุดน่าสนใจ

พระธาตุเชิงชุม เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสกลนคร เป็นที่เคารพสักการะของชาวสกลนครและผู้มาเยือน
พระอุโบสถ อาคารสำคัญสำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
สถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ที่สะท้อนความงดงามและประวัติศาสตร์ของภาคอีสานตอนบน
บริเวณวัดมีสวนสาธารณะและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจใกล้เคียง เหมาะสำหรับผู้มาเยือนที่ต้องการผ่อนคลายหลังการสักการะพระธาตุ
เจ้าอาวาสปัจจุบันคือ พระเทพสิทธิโสภณ (สุรสีห์ กิตติโสภโณ) ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหารจึงเป็นทั้งศูนย์รวมจิตใจและแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดสกลนครและภาคอีสานตอนบนอย่างยิ่ง.